(แหล่งที่มา asean.org)
จาการ์ตา 1 มกราคม 2565– ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลใช้บังคับในวันนี้สำหรับออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น สปป. ลาว นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ปูทางไปสู่การสร้างความตกลงเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่การค้า
ตามข้อมูลของธนาคารโลก ข้อตกลงดังกล่าวจะครอบคลุมประชากร 2.3 พันล้านคนหรือ 30% ของประชากรโลก มีส่วนสนับสนุน 25.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30% ของ GDP โลก และคิดเป็นมูลค่า 12.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าหนึ่งในสี่ของการค้าโลกใน สินค้าและบริการ และ 31% ของการไหลเข้าของ FDI ทั่วโลก
ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 สำหรับสาธารณรัฐเกาหลีด้วย สำหรับรัฐผู้ลงนามที่เหลือ ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับภายใน 60 วัน ภายหลังจากการมอบสัตยาบันสาร การยอมรับ หรือการให้ความเห็นชอบแก่เลขาธิการอาเซียนในฐานะผู้เก็บรักษาความตกลง RCEP
การมีผลใช้บังคับของความตกลง RCEP ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของภูมิภาคที่จะเปิดตลาดต่อไป เสริมสร้างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง เสรี ยุติธรรม ครอบคลุม และอิงกฎเกณฑ์ และมีส่วนสนับสนุนความพยายามในการฟื้นฟูหลังการระบาดทั่วโลกในท้ายที่สุด
ด้วยความมุ่งมั่นในการเข้าถึงตลาดใหม่และกฎเกณฑ์และระเบียบวินัยที่ทันสมัยและคล่องตัวซึ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน RCEP สัญญาว่าจะส่งมอบโอกาสทางธุรกิจและการจ้างงานใหม่ ๆ เสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก และขนาดกลางในคุณค่าของภูมิภาค ห่วงโซ่และศูนย์กลางการผลิต
สำนักเลขาธิการอาเซียนยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกระบวนการ RCEP เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการมีประสิทธิผลและประสิทธิผล
(ใบรับรอง RCEP ฉบับแรกออกให้กับ Guangdong Light Houseware Co., LTD.)
เวลาโพสต์: 20 ม.ค. 2022